แชร์

เสาเหล็ก เสาปูน และเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก เลือกแบบไหนดีให้เข้ากับบ้าน

อัพเดทล่าสุด: 9 ก.ค. 2025
46 ผู้เข้าชม

S.J.Building สรุปให้

  • เสาเหล็ก มีน้ำหนักเบากว่าเสาปูน ช่วยลดแรงกดทับฐานราก เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็ว

  • มีความแข็งแรงสูง รับแรงดึงได้ดี แต่ต้องมีการป้องกันสนิมและไฟ

  • เสาปูนหรือเสาคอนกรีต ทนไฟและสภาพอากาศได้ดีกว่า เหมาะกับพื้นที่ชายทะเลหรือความชื้นสูง

  • การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งงบ รูปแบบบ้าน ระยะเวลาก่อสร้าง และสภาพแวดล้อม

  • เสาเหล็กเหมาะกับบ้านสมัยใหม่ที่ต้องการพื้นที่โล่ง ดัดแปลงได้ในอนาคต และสร้างเร็ว

  • ควรพิจารณาจากค่าบำรุงรักษาในระยะยาวด้วย ไม่ใช่แค่ราคาเริ่มต้นเท่านั้น


เสาเหล็ก มีจุดเด่นด้านความรวดเร็วในการติดตั้งและน้ำหนักเบา ส่วนเสาปูน (หรือเสาคอนกรีต) มีความแข็งแรงทนทานและทนไฟสูง การตัดสินใจเลือกใช้เสาชนิดใดจะมีผลโดยตรงต่อความมั่นคงแข็งแรง อายุการใช้งาน และค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง

บทความนี้ S.J.Building จะบอกถึงความแตกต่างของวัสดุทั้งสองชนิด เพื่อช่วยให้ท่านพิจารณาเลือกใช้เสาที่เหมาะสมกับบ้านของคุณค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

เสาเหล็ก คืออะไร ? และมีบทบาทอย่างไรในโครงสร้างอาคาร

เสาเหล็ก คือองค์ประกอบโครงสร้างแนวตั้งที่ผลิตจากเหล็กกล้า เพื่อรับน้ำหนักของอาคารแล้วถ่ายแรงลงสู่ฐานราก ด้วยคุณสมบัติด้านความแข็งแรงต่อน้ำหนักที่สูง ทำให้เสาเหล็กขนาดเล็กสามารถรับน้ำหนักได้มากเทียบเท่าเสาคอนกรีตขนาดใหญ่กว่า เอื้อต่อการออกแบบพื้นที่ภายในให้เปิดโล่งและมีช่วงเสายาวขึ้นค่ะ

ความสามารถในการรับแรงดึงของเสาเหล็กที่ดีกว่าเสาคอนกรีต ทำให้โครงสร้างสามารถต้านทานแรงลมและแรงสั่นสะเทือนได้ ถ้าติดตั้งถูกวิธี ความยืดหยุ่นของโครงสร้างเสาเหล็กจะช่วยดูดซับพลังงานจากแรงกระทำภายนอก ลดโอกาสการแตกหักเสียหายเหมือนวัสดุชนิดอื่นที่เปราะกว่า

 

ประเภทของ เสาเหล็ก ที่ใช้ในโครงสร้าง

เสาเหล็กที่ใช้ในงานก่อสร้างมีหลายประเภท แต่ละแบบมีคุณสมบัติและการใช้งานที่ต่างกัน ดังนี้

  1. เสาเหล็กรูปตัวไอ (I-Beam หรือ W-Beam) มีหน้าตัดคล้ายตัวอักษร I หรือ H แนวนอน ประกอบด้วยปีก (flange) ด้านบนและด้านล่าง เชื่อมต่อด้วยเว็บ (web) ตรงกลาง เหมาะสำหรับรับแรงดัดในทิศทางของปีก แต่มีความต้านทานการบิดต่ำ
  2. เสาเหล็กรูปตัวเอช (H-Beam) มีลักษณะคล้าย I-Beam แต่มีปีกที่กว้างกว่าและเว็บที่หนากว่า ทำให้รับน้ำหนักในแนวตั้งได้ดี ใช้เป็นเสาเพราะมีความแข็งแรงสูงและรับแรงได้ดีในทุกทิศทาง
  3. เสาเหล็กกล่อง (Box Column หรือ Hollow Structural Section) มีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือวงกลมกลวง ให้ความแข็งแรงสูงในการรับแรงอัดและแรงบิด ใช้ในงานที่ต้องการความสวยเพราะมีรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย
  4. เสาเหล็กรูปตัวซี (C-Channel) มีหน้าตัดคล้ายตัวอักษร C ใช้เป็นโครงสร้างรองหรือในงานที่รับน้ำหนักไม่มาก
  5. เสาเหล็กรูปตัวแอล (Angle) มีหน้าตัดเป็นรูปตัว L ใช้เป็นโครงสร้างเสริมหรือค้ำยัน ใช้ร่วมกับเสาประเภทอื่น
  6. เสาเหล็กประกอบ (Built-up Column) เกิดจากการนำเสาเหล็กหลายชิ้นมาประกอบกัน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความสามารถในการรับน้ำหนัก ใช้ในงานที่ต้องการรับน้ำหนักมาก ๆ

การเลือกประเภทของเสาเหล็กขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น น้ำหนักที่ต้องรับ ความสูงของอาคาร ลักษณะการใช้งาน งบ และความสวยตามแบบสถาปัตยกรรมค่ะ

 

การเปรียบเทียบระหว่าง เสาเหล็ก เสาปูน และเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก

การเลือกระหว่างเสาเหล็กกับเสาคอนกรีตต้องพิจารณาจากหลายปัจจัยที่ควรพิจารณา ได้แก่

คุณสมบัติ เสาเหล็ก เสาปูน
(เสาคอนกรีต)
เสาคอนกรีตเสริมเหล็ก
(RC)
น้ำหนัก เบา หนัก หนัก
ความแข็งแรงต่อขนาด สูงมาก ปานกลาง สูง
การรับแรงดึง ดีเยี่ยม ต่ำ ดี
(ขึ้นกับปริมาณเหล็กเสริม)
การรับแรงอัด ดี ดีเยี่ยม ดีเยี่ยม
ความทนไฟ ต่ำ
(ต้องมีการป้องกัน)
สูง สูง
การต้านทานสนิม ต่ำ
(ต้องมีการป้องกัน)
สูง สูง
ระยะเวลาก่อสร้าง รวดเร็ว ช้า ช้า
ความยืดหยุ่นในการออกแบบ สูง ปานกลาง ปานกลาง-สูง
การดัดแปลงในภายหลัง ทำได้ง่าย ยาก ยาก
อายุการใช้งาน ยาว
(เมื่อมีการป้องกันที่ดี)
ยาวมาก ยาวมาก
ค่าก่อสร้างเริ่มต้น สูง ปานกลาง-ต่ำ ปานกลาง
ค่าบำรุงรักษา ปานกลาง-สูง ต่ำ ต่ำ

เสาเหล็กตอบโจทย์งานที่เน้นความเร็วในการติดตั้งและโครงสร้างน้ำหนักเบา แต่จำเป็นต้องเพิ่มการป้องกันสนิมและหุ้มวัสดุกันไฟ ส่วนเสาคอนกรีตให้ความแข็งแรงทนทานต่อสภาวะต่าง ๆ ทนไฟได้ในตัว แต่ใช้เวลาก่อสร้างนาน มีน้ำหนักมาก และแก้ไขโครงสร้างในอนาคตได้ยาก ควรเลือกให้ตรงกับความต้องการของโครงการค่ะ

การพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะกับรูปแบบบ้าน

การเลือกใช้เสาให้เหมาะกับรูปแบบบ้านควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้

  1. รูปแบบสถาปัตยกรรม บ้านสไตล์โมเดิร์นที่เน้นพื้นที่โล่งและเพดานสูงเหมาะกับเสาเหล็ก เพราะสร้างช่วงเสาที่ยาวได้ ส่วนบ้านแบบดั้งเดิมหรือร่วมสมัยอาจเหมาะกับเสาคอนกรีตมากกว่า
  2. สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม พื้นที่ชายทะเลหรือที่มีความชื้นสูงอาจไม่เหมาะกับเสาเหล็ก เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดสนิมสูง ถ้าจำเป็นต้องใช้ ควรมีระบบป้องกันสนิมที่ดี ส่วนพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อแผ่นดินไหว เสาเหล็กอาจเป็นทางเลือกที่ดีเพราะมีความยืดหยุ่นสูง
  3. ระยะเวลาก่อสร้าง ถ้าต้องการความรวดเร็ว เสาเหล็กคือทางเลือกที่ดี เพราะสามารถผลิตล่วงหน้าและนำมาประกอบที่หน้างานได้เลย
  4. ค่าใช้จ่ายในระยะยาว แม้ว่าเสาเหล็กอาจมีค่าก่อสร้างเริ่มต้นที่สูงกว่า แต่อาจช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวจากการใช้เวลาก่อสร้างที่น้อยกว่า และมีความยืดหยุ่นในการดัดแปลงในอนาคต
  5. แผนการใช้งานในอนาคต ถ้ามีแผนที่จะขยายหรือดัดแปลงบ้านในอนาคต เสาเหล็กจะให้ความยืดหยุ่นมากกว่า

อ่านเพิ่มเติม: 3 ประเภท เสา สำหรับสร้างบ้าน | เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม

 

การใช้งาน เสาเหล็ก ร่วมกับโครงสร้างส่วนอื่น

เพื่อให้เสาเหล็กในงานก่อสร้างบ้านทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ การออกแบบต้องให้สอดคล้องกับโครงสร้างบ้านในส่วนอื่น ๆ ตั้งแต่ฐานรากจนถึงหลังคา

  • จุดเชื่อมต่อกับฐานรากคอนกรีตซึ่งส่วนประกอบฐานรากอย่างตอม่อ จะใช้แผ่นเหล็กฐาน (base plate) ยึดกับสลักเกลียว (anchor bolts) ที่ฝังในคอนกรีต การออกแบบฐานรากต้องดูแลเรื่องการกระจายแรงและป้องกันความชื้นจากดินไม่ให้สัมผัสเหล็ก
  • เสาเหล็กทำงานร่วมกับคานเหล็ก คานคอนกรีต และพื้นสำเร็จรูปได้ การเชื่อมต่อทำได้ผ่านการเชื่อมหรือใช้สลักเกลียว ทำให้สามารถสร้างพื้นที่ภายในที่เปิดโล่งได้กว้างขวาง
  • ส่วนของผนังใช้ได้หลายชนิด ทั้งผนังก่ออิฐ ผนังคอนกรีตมวลเบา และผนังเบา (drywall) โดยเฉพาะผนังเบามีน้ำหนักน้อยและติดตั้งสะดวก ทำให้เข้ากันกับโครงสร้างเหล็ก
  • สำหรับโครงสร้างหลังคา ความแข็งแรงของเสาเหล็กเอื้อต่อการออกแบบหลังคาที่มีรูปทรงซับซ้อนหรือมีน้ำหนักมาก และยังสามารถติดตั้งระบบเสริมความแข็งแรงเพิ่มเติม เช่น ค้ำยันรูปตัว X (X-bracing) หรือกำแพงรับแรงเฉือน (shear wall) เพื่อต้านทานแรงจากลมและแผ่นดินไหว

 

ข้อควรตรวจสอบก่อนการติดตั้งเสาเหล็ก

การตรวจเช็คเสาเหล็กก่อนติดตั้ง จะช่วยให้โครงสร้างมีความปลอดภัยและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ได้แก่

  1. ตรวจคุณภาพของเสาเหล็กกับวัสดุที่เกี่ยวข้อง ต้องพิจารณาเกรดของเหล็ก อาทิ SS400 หรือ SM490 เพื่อยืนยันคุณสมบัติด้านความแข็งแรง พร้อมตรวจดูขนาด รูปทรง และสภาพว่าปราศจากตำหนิหรือการบิดเบี้ยวตามแบบกำหนด
  2. การทบทวนแบบโครงสร้างกับการคำนวณ เพื่อให้แน่ใจว่าเสาเหล็กที่เลือกใช้สามารถรับน้ำหนักและแรงกระทำต่าง ๆ ได้จริงตามการออกแบบ รวมถึงแรงด้านข้างจากลมหรือแผ่นดินไหวที่ต้องมีระบบค้ำยันเสริมความแข็งแรง
  3. ระบบป้องกันไฟกับสนิม ใช้วัสดุทนไฟห่อหุ้มควบคู่กับการทาสีกันสนิม หรือเลือกใช้เหล็กชุบสังกะสีและเหล็กกล้าไร้สนิม เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน
  4. การตรวจความพร้อมของฐานรากกับจุดยึด ต้องดูว่าตำแหน่งของสลักเกลียวยึดมีถูกตำแหน่งได้ระดับ รวมถึงแผ่นฐานว่ามีความหนาพอและการเชื่อมต่อกับเสาที่ได้คุณภาพ
  5. การตรวจสอบเอกสารสำคัญ ควรเช็คเอกสารอนุญาตทางกฎหมายและการรับรองจากวิศวกรผู้มีใบอนุญาต เพื่อให้การก่อสร้างทั้งหมดถูกต้องตามหลักเกณฑ์

 

การป้องกันสนิมเสาเหล็กและการดูแลระยะยาว

การป้องกันสนิมกับการบำรุงรักษาเสาเหล็ก ปัจจัยสำคัญที่กำหนดอายุการใช้งานและความปลอดภัยของโครงสร้าง มีดังนี้

วิธีการป้องกันสนิมเสาเหล็ก

  • การทาสีกันสนิม เริ่มจากการเตรียมผิวเหล็กให้สะอาด แล้วทารองพื้นกันสนิม (primer) ตามด้วยสีกันสนิม และสีทับหน้า ควรเลือกระบบสีที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน

  • การชุบสังกะสี (Galvanizing) การเคลือบเหล็กด้วยสังกะสี ป้องกันการสัมผัสกับอากาศกับความชื้น แล้วยังเป็นการป้องกันแบบ sacrificial protection ที่สังกะสีจะถูกกัดกร่อนแทนเหล็ก

  • การใช้วัสดุเคลือบพิเศษ (Specialized Coatings) มีให้เลือกหลายวัสดุ เช่น วัสดุเคลือบประเภท epoxy หรือ polyurethane ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพแวดล้อมรุนแรง

  • การห่อหุ้ม (Encasement) ในบางกรณี อาจมีการห่อหุ้มเสาเหล็กด้วยคอนกรีตหรือวัสดุอื่น ๆ นอกจากจะป้องกันสนิมแล้วยังเพิ่มความทนไฟอีกด้วย

การดูแลเสาเหล็กในระยะยาว

สำหรับการดูแลระยะยาว ควรมีการตรวจสอบเป็นประจำตามรายการต่อไปนี้

  1. การตรวจสอบด้วยสายตา อย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อหารอยแตก รอยบวม สีที่หลุดลอก หรือสนิมที่เริ่มก่อตัว
  2. การตรวจวัดความหนาของสีเคลือบ ทุก 2-3 ปี เพื่อประเมินการสึกกร่อนของชั้นป้องกัน
  3. การตรวจสอบจุดเชื่อมต่อ ตรวจหาการหลวมของสลักเกลียว หรือความเสียหายของรอยเชื่อม
  4. การทำความสะอาด กำจัดฝุ่นกับสิ่งสกปรกที่อาจกักเก็บความชื้นและเร่งการเกิดสนิม

เมื่อพบความเสียหาย ควรดำเนินการซ่อมแซมทันที ดังนี้

  • ขจัดสนิมที่เกิดขึ้นให้หมด (ด้วยการขัด พ่นทราย หรือใช้สารเคมี)
  • ทาสารป้องกันสนิมใหม่บริเวณที่เสียหาย
  • ในกรณีที่ความเสียหายรุนแรง อาจต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนหรือเสริมความแข็งแรง

การป้องกันความชื้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในจุดที่เสาเหล็กสัมผัสกับคอนกรีตหรืออยู่ใกล้พื้นดิน ควรมีระบบระบายน้ำที่ดีและวัสดุกันซึมในจุดเชื่อมต่อค่ะ

 

สรุป

เสาเหล็ก เหมาะกับการสร้างบ้านสมัยใหม่ที่ต้องการพื้นที่เปิดโล่งและก่อสร้างเสร็จไว แต่ต้องมีการวางแผนป้องกันสนิมกับไฟ ขณะที่เสาคอนกรีตให้ความทนทานสูง รับมือสภาพแวดล้อมรุนแรงได้ มีภาระการดูแลรักษาน้อยกว่า การตัดสินใจเลือกใช้วัสดุชนิดใดล้วนส่งผลต่อความมั่นคงแข็งแรง รูปแบบอาคาร และค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง

การวางแผนอย่างรอบคอบกับปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่าง ผู้รับเหมา วิศวกรโครงสร้าง หรือสถาปนิก จะช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถเลือกชนิดของเสาที่เข้ากับการสร้างบ้านในฝัน โครงสร้างที่แข็งแรงปลอดภัยเกิดจากรากฐานของการออกแบบที่ถูกหลักวิศวกรรม การก่อสร้างตามมาตรฐาน และการบำรุงรักษาต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้คือการลงทุนที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวค่ะ


บทความที่เกี่ยวข้อง
การเลือกใช้ อิฐ สำหรับผนังภายนอกและภายในอาคาร พร้อมขั้นตอนการก่อ
เปรียบเทียบคุณสมบัติของ อิฐก่อสร้าง ทั้ง 4 ประเภท พร้อมวิธีเลือกใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของบ้าน รวมถึงขั้นตอนการก่ออิฐให้ได้ผนังที่แข็งแรงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
7 ก.ค. 2025
สร้างบ้าน เลือกแบบไหนดี ? ระหว่าง บริษัทรับก่อสร้าง กับ ผู้รับเหมาอิสระ
แนวทางการเตรียมตัวก่อน สร้างบ้าน เปรียบเทียบ ผู้รับเหมาอิสระกับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง จุดที่ต้องตรวจสอบในสัญญาจ้างเหมา และวิธีเลือกวัสดุก่อสร้างให้เหมาะกับการใช้งาน
7 ก.ค. 2025
3 ประเภท เสา สำหรับสร้างบ้าน เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม
แนะนำประเภทของ เสา ที่ใช้ในการก่อสร้าง ตั้งแต่การเลือกขนาด ขั้นตอนติดตั้ง และมาตรฐานที่จำเป็น เพื่อให้เสาบ้านของคุณแข็งแรงทนทาน
7 ก.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy