แชร์

ตอม่อ คืออะไร ? ส่วนประกอบฐานรากที่เจ้าของบ้านควรรู้

อัพเดทล่าสุด: 9 ก.ค. 2025
49 ผู้เข้าชม

S.J.Building สรุปให้

  • ตอม่อ คือเสาขนาดสั้นสูงประมาณ 50-100 ซม. อยู่ระหว่างฐานรากกับคานพื้นชั้นล่าง

  • ส่วนใหญ่จะจมอยู่ใต้ดิน โดยมีส่วนที่โผล่จากดินประมาณ 20 ซม.

  • ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักและถ่ายเทน้ำหนักจากโครงสร้างด้านบนลงสู่ฐานรากกับเสาเข็ม

  • ต่อม่อเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบ้านที่มีผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง

  • มีหลายรูปแบบ เช่น ตอม่อคอนกรีตสำเร็จรูป ตอม่อที่หล่อในที่ ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน


ตอม่อ คือโครงสร้างหลักในส่วนฐานราก มีผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างบ้านกับอาคาร บทความนี้ S.J.Building เราจะอธิบายรายละเอียดทั้งหมด ตั้งแต่รูปลักษณ์ หน้าที่ ความเชื่อมโยงกับโครงสร้างอื่น ๆ และขั้นตอนการติดตั้ง เพื่อให้เจ้าของบ้านเข้าใจความจำเป็นของส่วนประกอบนี้ค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ตอม่อ คืออะไร ? ลักษณะทางกายภาพและตำแหน่งในโครงสร้าง

ตอม่อ คือเสาสั้นที่ทำจากคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความสูงประมาณ 50-100 เซนติเมตร ส่วนใหญ่จะถูกฝังอยู่ใต้ดินและมีแค่ส่วนน้อยที่โผล่พ้นระดับพื้นดินขึ้นมา สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อฐานรากเข้ากับคานพื้นชั้นล่าง พร้อมถ่ายเทน้ำหนักทั้งหมดของอาคารลงสู่ฐานรากเพื่อความมั่นคงของตัวบ้านค่ะ

ตำแหน่งของตอม่อจะวางอยู่บนฐานราก ปกติจะอยู่กึ่งกลาง แต่สำหรับการก่อสร้างชิดแนวเขตที่ดิน วิศวกรจะออกแบบให้วางอยู่ริมฐานราก เพื่อป้องกันโครงสร้างล้ำเข้าไปในที่ดินข้างเคียง การวางตำแหน่งลักษณะนี้เรียกว่า "ฐานรากตีนเป็ด" หรือ "ฐานรากชิดเขต"

ความแตกต่างระหว่าง ตอม่อกับเสาอาคารทั่วไป

ลักษณะ ตอม่อ เสาอาคารทั่วไป
ตำแหน่ง อยู่ใต้ดิน (ระหว่างฐานรากกับคานพื้นชั้นล่าง) อยู่เหนือระดับพื้นดิน
ความสูง สั้น
(50-100 ซม.)
สูงตามความสูงของชั้นอาคาร
(มากกว่า 2.5 เมตร)
การมองเห็น มองไม่เห็นเมื่อการก่อสร้างเสร็จ เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างที่มองเห็นได้
หน้าที่หลัก ถ่ายเทน้ำหนักจากโครงสร้างสู่ฐานรากและเสาเข็ม รับน้ำหนักจากคาน พื้น และหลังคา แล้วถ่ายสู่ตอม่อ
การออกแบบ เพื่อรับแรงอัดในแนวดิ่ง เพื่อรับทั้งแรงอัดและแรงดัดจากแรงลม

หน้าที่ของ ตอม่อ ในโครงสร้างอาคาร

ตอม่อ ทำหน้าที่รองรับสิ่งก่อสร้าง รองรับน้ำหนักในทางแนวดิ่งเหมือนเสา ต่างกันที่ตำแหน่งที่ตั้ง รวมถึงทำหน้าที่ถ่ายเทน้ำหนักจากด้านบน ลงสู่ฐานรากและเสาเข็มที่ฝังไว้ในดิน หน้าที่หลักมีดังนี้

  • รับแรงอัดในแนวดิ่ง ทำหน้าที่รับแรงอัดรวมถึงการถ่ายเทน้ำหนักจากสิ่งก่อสร้างในแนวดิ่งลงสู่พื้นดิน

  • เชื่อมต่อโครงสร้าง ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างฐานรากกับโครงสร้างส่วนบน

  • เพิ่มความแข็งแรง เสาตอม่อเป็นเสาสั้น ๆ ที่มีความจำเป็นต่องานโครงสร้างทุกรูปแบบ ปกติจะจมอยู่ใต้ดิน เพราะใช้เป็นรากฐานที่ป้องกันอาคารเอียง หรือเกิดการเลื่อนของดินจากแผ่นดินไหว

  • ป้องกันการทรุดตัว ช่วยกระจายน้ำหนักจากโครงสร้างสู่ฐานรากให้สม่ำเสมอ ลดโอกาสการทรุดตัวที่ไม่เท่ากัน

เสาตอม่อทำหน้าที่สร้างความมั่นคงให้แก่อาคารในระยะยาว การไม่มีโครงสร้างส่วนนี้จะเพิ่มความเสี่ยงให้บ้านเสียหายได้ โดยเฉพาะเมื่อตั้งอยู่บนพื้นที่ดินอ่อน

 

ความสัมพันธ์ระหว่าง ตอม่อ เสาเข็ม และฐานราก

ตอม่อ เสาเข็ม และฐานราก มีความเชื่อมโยงกันในระบบโครงสร้างฐานราก โดยทำงานร่วมกันเพื่อรับและถ่ายเทน้ำหนักของอาคาร

  • เสาเข็ม ทำหน้าที่รับน้ำหนักจากอาคารและถ่ายเทลงสู่ชั้นดินที่แข็งแรงในระดับลึก

  • ฐานราก เป็นโครงสร้างส่วนที่อยู่ใต้ผิวดินทำหน้าที่รับน้ำหนักจากโครงสร้างทั้งหมด แล้วถ่ายน้ำหนักลงสู่เสาเข็มหรือดินโดยตรง

  • ตอม่อ ทำหน้าที่รับน้ำหนักบ้านต่อจากคานคอดินแล้วถ่ายน้ำหนักลงสู่ฐานรากต่อไป

ลำดับการถ่ายเทน้ำหนักในโครงสร้างอาคาร

  1. โครงสร้างส่วนบน (เสา คาน พื้น หลังคา)
  2. เสาอาคาร
  3. คานคอดิน
  4. ตอม่อ
  5. ฐานราก
  6. เสาเข็ม (ถ้ามี) หรือดินโดยตรง

สำหรับโครงสร้างใต้ดิน ตอม่อคือเสาสั้นที่ตั้งอยู่บนฐานรากเพื่อรับน้ำหนักจากคานคอดิน แม้จะอยู่ใกล้กันแต่ก็มีหน้าที่ต่างกัน การออกแบบและก่อสร้างทุกส่วนประกอบของระบบโครงสร้างนี้ให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม จะทำให้อาคารมีความแข็งแรงพร้อมความปลอดภัยในการใช้งาน

 

ส่วนประกอบหลักและการออกแบบ เสาตอม่อ

เสาตอม่อ คือโครงสร้างที่มีความซับซ้อนมากกว่าที่หลายคนคิด เรามาดูรายละเอียดของส่วนประกอบและการออกแบบที่สำคัญ ได้แก่

1. ส่วนประกอบหลักของตอม่อ

โครงสร้างตอม่อประกอบขึ้นจากคอนกรีตกับเหล็กเสริมที่ทำงานร่วมกัน ตัวคอนกรีตต้องมีกำลังอัดไม่ต่ำกว่า 240 ksc เพื่อทำหน้าที่รับแรงและถ่ายเทน้ำหนักลงสู่ฐานราก ในส่วนของเหล็กเสริมที่จัดวางตามการออกแบบของวิศวกร จะมีองค์ประกอบ 2 อย่างคือ

  1. เหล็กแกนหลัก เป็นเหล็กเส้นแนวตั้งขนาด 12-16 มิลลิเมตร ทำหน้าที่รับน้ำหนักโดยตรงจากโครงสร้างด้านบน
  2. เหล็กปลอก เป็นเหล็กเส้นแนวนอนขนาด 6-9 มิลลิเมตร พันรอบเหล็กแกน เพื่อยึดโครงสร้างเหล็กเข้าไว้ด้วยกันและช่วยป้องกันการปริแตกของคอนกรีต

2. ปัจจัยในการออกแบบตอม่อ

การออกแบบตอม่อจะพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

  • ต้องคำนวณน้ำหนักที่ตอม่อต้องรับ เพื่อออกแบบโครงสร้างให้แข็งแรงเพียงพอ
  • กำหนดตามน้ำหนักบรรทุกและความสูง โดยทั่วไปมีขนาด 15x15 ซม. 20x20 ซม. หรือ 25x25 ซม.
  • กำหนดจำนวนและขนาดของเหล็กเสริมตามการคำนวณทางวิศวกรรม
  • กำหนดระยะหุ้มเหล็ก เพื่อป้องกันการเกิดสนิมในเหล็กเสริม ไม่น้อยกว่า 5 ซม. เพราะตอม่ออยู่ใต้ดินที่มีความชื้น

3. ประเภทของตอม่อตามการใช้งาน

ตอม่อมีหลากหลายรูปแบบ ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น

ประเภทตอม่อ ตอม่อคอนกรีตสำเร็จรูป ตอม่อหล่อในที่ ตอม่อปูน
ลักษณะเฉพาะ
  • ผลิตจากโรงงาน
  • มีขนาดมาตรฐาน
  • หล่อในสถานที่ก่อสร้าง
  • ปรับขนาดได้ตามต้องการ
  • ทำจากปูนก่อสร้าง
  • มักทำเองในพื้นที่
ข้อดี
  • ราคาประหยัด
  • ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว
  • คุณภาพสม่ำเสมอ
  • กำหนดรูปทรงพิเศษได้
  • ปรับให้เข้ากับพื้นที่เฉพาะได้
  • ต้นทุนต่ำ
  • ทำเองได้
การนำไปใช้
  • งานทั่วไป
  • โครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนักมาก
  • งานที่ต้องการความรวดเร็ว
  • งานที่ต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ
  • พื้นที่ที่มีรูปทรงซับซ้อน
  • โครงสร้างขนาดเล็ก
  • งานที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก

การเลือกใช้ตอม่อที่เหมาะกับโครงการก่อสร้าง ส่งผลตรงต่อความแข็งแรงกับอายุใช้งานของอาคาร เจ้าของบ้านต้องปรึกษาวิศวกร เพื่อออกแบบต่อม่อให้สอดคล้องกับลักษณะดินและน้ำหนักที่อาคารต้องรับค่ะ

ข้อควรระวังการควบคุมคุณภาพตลอดขั้นตอนการผลิตกับการติดตั้งต้องทำอย่างเข้มงวด เพราะโครงสร้างส่วนนี้อยู่ใต้ดิน การแก้ไขภายหลังจะทำได้ลำบากและมีค่าใช้จ่ายสูง

 

ขั้นตอนการติดตั้ง ตอม่อ สำหรับยึดเสาเหล็ก

  1. ขุดหลุมฐานรากตามขนาดที่กำหนดในแบบ ปกติจะมีขนาดใหญ่กว่าฐานรากประมาณ 25 ซม.
  2. ถ้ามีน้ำและดินเลนบริเวณรอบก้นหลุมต้องเอาออก แล้วทำความสะอาดหลุมให้แห้งก่อนการเททรายกับคอนกรีต
  3. เทคอนกรีตหยาบ (Lean) บนพื้นดินที่ปรับระดับแล้ว เพื่อเป็นแบบหล่อท้องคอนกรีตฐานราก ช่วยป้องกันไม่ให้ดินปนเปื้อนในคอนกรีตโครงสร้าง
  4. ติดตั้งเหล็กเสริมฐานรากตามแบบที่กำหนด
  5. เตรียมเหล็กยึดเสา (Anchor Bolt) แล้วติดตั้งในตำแหน่งที่จะวางเสาเหล็ก และต้องวัดระยะให้ถูกต้องตามแบบ
  6. ติดตั้งไม้แบบสำหรับฐานรากและตอม่อ
  7. ผูกเหล็กตอม่อให้ต่อเนื่องกับเหล็กฐานราก และเหล็กต้องยาวพอที่จะยึดกับเสาเหล็ก
  8. เทคอนกรีตลงไปรอให้แห้งประมาณ 2 วันถึงจะถอดไม้แบบออก แล้วบ่มคอนกรีต ต่อไปจนครบ 28 วัน
  9. ติดตั้งแผ่นเหล็กฐาน (Base Plate) บนตอม่อ โดยยึดกับเหล็ก Anchor Bolt ที่ฝังไว้
  10. เชื่อมหรือยึดเสาเหล็กกับแผ่นเหล็กฐาน

เมื่อติดตั้งตอม่อเรียบร้อยแล้ว จะสามารถดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างส่วนบนต่อได้ โดยเริ่มจากการติดตั้งเสา คาน และพื้น ตามลำดับค่ะ

อ่านเพิ่มเติม: เสาเหล็ก เสาปูน และเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก เลือกแบบไหนดีให้เข้ากับบ้าน

 

สรุป

ตอม่อ ทำหน้าที่รับและถ่ายเทน้ำหนักจากโครงสร้างส่วนบนลงสู่ฐานรากที่อยู่ใต้ดิน ถึงจะมองไม่เห็นหลังจากการก่อสร้างเสร็จ แต่กลับมีความจำเป็นต่อความแข็งแรงของอาคาร การออกแบบและก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานอาจนำไปสู่การทรุดตัว การเอียง หรือการเกิดรอยร้าวของอาคารได้

การตรวจเช็คคุณภาพการก่อสร้างตอม่อทุกขึ้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัสดุจนถึงการควบคุมงานโดยผู้ควบคุมงานก่อสร้างให้ได้มาตรฐานตามหลักวิศวกรรม จะช่วยป้องกันความเสียหายระยะยาว เพราะการแก้ไขปัญหาโครงสร้างใต้ดินภายหลังนั้นทำได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงค่ะ


บทความที่เกี่ยวข้อง
การเลือกใช้ อิฐ สำหรับผนังภายนอกและภายในอาคาร พร้อมขั้นตอนการก่อ
เปรียบเทียบคุณสมบัติของ อิฐก่อสร้าง ทั้ง 4 ประเภท พร้อมวิธีเลือกใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของบ้าน รวมถึงขั้นตอนการก่ออิฐให้ได้ผนังที่แข็งแรงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
7 ก.ค. 2025
สร้างบ้าน เลือกแบบไหนดี ? ระหว่าง บริษัทรับก่อสร้าง กับ ผู้รับเหมาอิสระ
แนวทางการเตรียมตัวก่อน สร้างบ้าน เปรียบเทียบ ผู้รับเหมาอิสระกับบริษัทรับเหมาก่อสร้าง จุดที่ต้องตรวจสอบในสัญญาจ้างเหมา และวิธีเลือกวัสดุก่อสร้างให้เหมาะกับการใช้งาน
7 ก.ค. 2025
3 ประเภท เสา สำหรับสร้างบ้าน เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม
แนะนำประเภทของ เสา ที่ใช้ในการก่อสร้าง ตั้งแต่การเลือกขนาด ขั้นตอนติดตั้ง และมาตรฐานที่จำเป็น เพื่อให้เสาบ้านของคุณแข็งแรงทนทาน
7 ก.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy