ถมดินสร้างบ้าน ในพื้นที่ลักษณะต่าง ๆ ต้องระวังอะไรบ้าง ?
S.J.Building สรุปให้
- การถมดินเป็นรากฐานของบ้านที่แข็งแรง ช่วยป้องกันปัญหาน้ำท่วมและการทรุดตัวของโครงสร้าง ค่ะ
- ดินที่เหมาะสำหรับถมสร้างบ้าน ได้แก่ ดินถม ดินดำ ดินชั้นสอง ดินเหนียว ดินดาน (ซีแลค) และดินลูกรัง แต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่างกัน
- ความสูงของการถมดินควรอยู่ที่ 50-80 ซม. สูงกว่าระดับถนน หรือถึง 1 เมตรในพื้นที่ที่ดินมีแนวโน้มทรุดตัวสูง
- การถมดินต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 โดยเฉพาะในพื้นที่เกิน 2,000 ตารางเมตร
- ควรปล่อยให้ดินเซตตัวหลังการถมก่อนเริ่มก่อสร้าง เพื่อป้องกันการทรุดตัวในระยะยาว
-
ก่อนถมดิน ควรสำรวจสภาพพื้นที่รอบข้าง สอบถามข้อมูลจากผู้อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงเกี่ยวกับประวัติน้ำท่วมและสภาพดิน
ถมดินสร้างบ้าน คือขั้นตอนพื้นฐานเพื่อสร้างความแข็งแรงให้โครงสร้างบ้าน เพราะพื้นดินสำหรับก่อสร้างส่งผลต่อตัวบ้านโดยตรง การเลือกประเภทดินถมที่ไม่ถูกต้องและการถมที่ขาดมาตรฐานอาจเกิดปัญหาบ้านทรุด ผนังร้าว น้ำท่วมขัง ทำให้เกิดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมตามมา
บทความนี้ S.J. Building จะแนะนำประเภทดินที่เหมาะกับการถมดินสร้างบ้าน ขั้นตอนการเตรียมพื้นที่ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมเทคนิคและข้อควรระวังต่าง ๆ เพื่อให้ได้รากฐานที่มั่นคงสำหรับบ้านของคุณค่ะ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- S.J.Building สรุปให้
- การวางแผนและเตรียมการก่อน ถมดินสร้างบ้าน
- ขั้นตอนการ ถมดินสร้างบ้าน ตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้น
- ข้อกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวกับการ ถมดินสร้างบ้าน
- การถมดินในพื้นที่ลักษณะพิเศษและข้อควรระวัง
การวางแผนและเตรียมการก่อน ถมดินสร้างบ้าน
การถมดินสร้างบ้าน ควรเริ่มต้นจากการสำรวจพื้นที่รอบข้างอย่างละเอียด เพื่อกำหนดระดับความสูงให้พอดีกับสภาพแวดล้อม การเตรียมการที่ดีจะช่วยให้ท่านวางแผนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ โดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้
- ศึกษาประวัติพื้นที่ สอบถามข้อมูลจากเพื่อนบ้านเกี่ยวกับประวัติน้ำท่วม ความสูงของน้ำ และระยะเวลาท่วมขัง เพื่อใช้ประเมินสภาพดินในบริเวณนั้น
- สังเกตลักษณะพืชพรรณ พืชบางชนิดบอกสภาพดินได้ เช่น ต้นกก หรือหญ้าปล้อง ที่พบในพื้นที่ชุ่มน้ำ อาจต้องเพิ่มระดับการถมดินให้สูงขึ้น
- ตรวจสอบระดับพื้นที่ วัดระดับที่ดินกับถนนและพื้นที่ข้างเคียง เพื่อให้เห็นภาพรวมของระดับความสูงต่ำในพื้นที่
- วิเคราะห์ทิศทางการระบายน้ำ สำรวจเส้นทางไหลของน้ำและตำแหน่งท่อระบายน้ำสาธารณะ เพื่อวางแผนระบบระบายน้ำของบ้านให้ทำงานได้ดี
- วางแผนค่าใช้จ่าย การถมที่ดินคือค่าใช้จ่ายส่วนแรกของการสร้างบ้าน ควรเช็คราคาดินแต่ละชนิดและคำนวณปริมาณที่ต้องใช้
-
ตรวจสอบข้อกฎหมาย ศึกษาข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการถมดินสร้างบ้าน โดยเฉพาะพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 เพื่อให้การดำเนินงานถูกต้อง
การวางแผนรอบด้านตั้งแต่ต้นจะช่วยลดปัญหาที่อาจตามมา ทำให้งานถมดินมีคุณภาพ และได้พื้นที่ที่พร้อมสำหรับก่อสร้างบ้านหลังใหม่ค่ะ
ขั้นตอนการ ถมดินสร้างบ้าน ตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้น
การถมดินเป็นหนึ่งในขั้นตอนการสร้างบ้าน ซึ่งมีรายละเอียดหลักที่ควรปฏิบัติเพื่อให้ได้พื้นที่ก่อสร้างที่แข็งแรงและมั่นคง ช่วยลดปัญหาการทรุดตัวในอนาคต ดังนี้
- การเตรียมพื้นที่ เริ่มต้นด้วยการกำจัดวัชพืช ขยะ และสิ่งกีดขวางทั้งหมดออกจากพื้นที่ ถ้ามีสิ่งปลูกสร้างเดิมต้องรื้อถอนออกจนถึงฐานราก และย้ายสาธารณูปโภคกับกำหนดแนวเขตที่ดินให้เรียบร้อย
- การเลือกและสั่งซื้อดิน เลือกประเภทดินถมให้เข้ากับลักษณะการสร้างบ้าน คำนวณปริมาณที่ต้องใช้ ติดต่อผู้จำหน่ายเพื่อเปรียบเทียบราคาและคุณภาพ ควรตรวจดูดินก่อนตัดสินใจว่าไม่มีเศษวัสดุอื่นปะปน เพราะอาจมีผลกระทบต่อการลงเสาเข็มได้
- ขั้นตอนการถมดิน เมื่อปรับหน้าดินเดิมให้เรียบแล้ว ให้ทยอยถมดินเป็นชั้น ๆ หนาประมาณ 30 ซม. และบดอัดแต่ละชั้นให้แน่นก่อนถมชั้นถัดไป การบดอัดดินให้แน่นจะช่วยป้องกันการทรุดตัวในอนาคต และเช็คระดับความสูงของดินให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้
- การจัดการระบบระบายน้ำ ควรวางแผนระบบระบายน้ำรอบพื้นที่เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง การทำแนวกันดินจะช่วยควบคุมพื้นที่ถมและป้องกันการกัดเซาะของหน้าดินได้
-
การปล่อยให้ดินเซตตัว หลังจากถมดินเสร็จเรียบร้อย ควรเว้นระยะเวลาให้ดินอัดแน่นและเซตตัวประมาณ 3-6 เดือน ก่อนเริ่มการก่อสร้าง เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่มีความมั่นคงพอสำหรับรองรับโครงสร้างบ้าน
ขั้นตอนเหล่านี้เป็นแนวทางพื้นฐานในการถมดินสร้างบ้าน การดำเนินการด้วยความรอบคอบจะช่วยให้ได้พื้นที่ก่อสร้างที่แข็งแรง และมั่นคง พร้อมสำหรับสร้างบ้านที่แข็งแรงค่ะ
ข้อกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวกับการ ถมดินสร้างบ้าน
ถมดินสร้างบ้าน ไม่ใช่แค่การนำดินมาเทลงในที่ดินของตัวเอง แต่มีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกฎหมายและข้อบังคับเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียงและหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจตามมาค่ะ
พระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543
พระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 คือกฎหมายหลักที่ควบคุมการถมดิน โดยมีเนื้อหาที่ควรรู้เบื้องต้น ดังนี้
- การแจ้งการถมดิน การถมดินในพื้นที่ไม่เกิน 2,000 ตารางเมตร ไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องจัดให้มีการระบายน้ำที่เพียงพอ
- การขออนุญาต สำหรับการถมดินในพื้นที่เกิน 2,000 ตารางเมตร ต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น และต้องได้รับใบรับแจ้งก่อนเริ่มดำเนินการ
-
บทลงโทษ การฝ่าฝืนกฎหมายมีโทษทั้งจำคุกและปรับ รวมถึงอาจถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งถ้าเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่น
อ่านเพิ่มเติม: พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร สำหรับเจ้าของบ้านและผู้รับเหมา
ข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะห่างและความสูง
ฐานของเนินดินต้องห่างจากแนวเขตที่ดินของคนอื่น หรือที่สาธารณะเป็นระยะไม่น้อยกว่าความสูงของเนินดิน เช่น ถมดินสูง 2 เมตร ต้องถอยร่นจากแนวเขตที่ดิน 2 เมตร ยกเว้นการถมเต็มพื้นที่ ต้องทำกำแพงกันดินและต้องมีวิศวกรควบคุมดูแลค่ะ
ข้อกำหนดเกี่ยวกับการระบายน้ำ
- ระบบระบายน้ำ ต้องจัดให้มีทางระบายน้ำที่เพียงพอ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ข้างเคียง
-
การป้องกันน้ำท่วม ต้องมีมาตรการป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าที่ดินข้างเคียง อาจทำให้เกิดความเสียหายได้
การควบคุมโดยวิศวกรและผู้มีความรู้
- ผู้ควบคุมงาน สำหรับพื้นที่ใหญ่ติดกันตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตร และสูงเกิน 2 เมตร ต้องมีผู้ควบคุมงานที่เป็นวิศวกร
-
การรับรองแบบ ในกรณีที่มีการทำกำแพงกันดินหรือมีการถมดินสูงมาก จะต้องมีวิศวกรรับรองแบบและควบคุมการก่อสร้าง
การถมดินสร้างบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมายและข้อบังคับ คือการวางรากฐานที่ดีให้โครงการ ช่วยป้องกันปัญหาทางกฎหมายกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพื้นที่ข้างเคียงและสิ่งแวดล้อมค่ะ
การถมดินในพื้นที่ลักษณะพิเศษและข้อควรระวัง
พื้นที่แต่ละแห่งมีลักษณะเฉพาะที่ต่างกัน การถมดินในพื้นที่ที่มีลักษณะพิเศษจึงต้องมีการวางแผนและดำเนินการอย่างรอบคอบมากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ค่ะ
การถมดินสร้างบ้านในพื้นที่ที่มีลักษณะเฉพาะ ต้องอาศัยการวางแผนและการดำเนินการที่รัดกุม เพื่อป้องกันปัญหาโครงสร้างที่อาจตามมาในอนาคต พื้นที่แต่ละแห่งมีเงื่อนไขทางกายภาพที่ไม่เหมือนกัน พื้นที่แต่ละรูปแบบต้องการแนวทางการจัดการที่ต่างกัน ได้แก่
- ที่ดินติดแหล่งน้ำ ต้องสร้างแนวป้องกันดิน เพื่อรับมือกับระดับน้ำและป้องกันการกัดเซาะ
- ที่ดินบนเนินหรือพื้นที่ลาดชัน ต้องปรับระดับหน้าดินเป็นขั้นบันได เพื่อสร้างความมั่นคง
-
ที่ดินลักษณะดินอ่อนหรือเคยเป็นบ่อน้ำ ต้องใช้วิธีการบดอัดและเลือกใช้วัสดุที่ช่วยเสริมความแข็งแรงของชั้นดิน
การวางแผนและเตรียมการถมดินสร้างบ้านที่ถูกวิธี จะช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแรงให้กับตัวบ้าน และลดความเสี่ยงของปัญหาการทรุดตัวในอานาคตได้ค่ะ
การเตรียมการสำหรับ ถมที่นาสร้างบ้าน
พื้นที่นา คือพื้นที่ที่มีความชื้นสูงและมักมีชั้นดินอ่อนนุ่ม การถมที่นาเพื่อสร้างบ้านจะต้องมีการเตรียมการมากกว่าปกติ ดังนี้
- ขุดคูระบายน้ำรอบแปลงที่ดิน เพื่อลดความชื้นในดิน
- ควรทำการเจาะสำรวจดิน เพื่อตรวจสอบชั้นดินที่แต่ละระดับความลึก ช่วยในการออกแบบการถมดินและฐานรากที่เหมาะสม
- ควรเลือกใช้ดินที่มีคุณสมบัติในการระบายน้ำดีและบดอัดได้ดี เช่น ดินลูกรัง หรือดินดาน
- อาจพิจารณาใช้วัสดุเสริมแรงในดิน เช่น แผ่นใยสังเคราะห์ (Geotextile) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นดิน
-
ควรปล่อยระยะเวลาให้ดินเซตตัวนานกว่าปกติ เพราะที่นามักมีการทรุดตัวมากกว่าพื้นที่ทั่วไป
การจัดการความเสี่ยงเมื่อต้องการสร้าง บ้านถมดินสูง
การถมดินสร้างบ้านให้สูงมากเกินไปมีความเสี่ยงหลายอย่าง แต่ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องถมดินสูง เช่น ในพื้นที่ที่มีประวัติน้ำท่วมบ่อย การจัดการความเสี่ยงในกรณีนี้มีดังนี้
- การทำกำแพงกันดิน ในกรณีที่ต้องถมดินสูงและต้องการใช้พื้นที่เต็ม สามารถทำกำแพงกันดินเพื่อป้องกันการพังทลายได้ โดยต้องมีวิศวกรออกแบบและควบคุมงาน
- การถมดินเป็นขั้นบันได แทนที่จะถมดินให้สูงขึ้นทีเดียว อาจพิจารณาถมดินเป็นขั้นบันไดหรือทำลาดเอียง จะช่วยลดแรงดันด้านข้างและความเสี่ยงในการพังทลาย
- การเลือกใช้เสาเข็มที่เหมาะสม ในกรณีที่ต้องสร้างบ้านบนดินถมสูง ควรใช้เสาเข็มเจาะหรือเข็มตอกที่มีความยาวพอที่จะรองรับน้ำหนักของตัวบ้าน
- การออกแบบบ้านให้ยืดหยุ่น ปรับแบบบ้านให้มีความยืดหยุ่น เช่น การเว้นช่องว่างใต้พื้น เพื่อรองรับการทรุดตัวที่อาจเกิดขึ้น
เทคนิคการถมดินหน้าบ้าน และพื้นที่รอบตัวบ้าน
การถมดินในบริเวณหน้าบ้านและพื้นที่รอบตัวบ้านก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นพื้นที่ที่ใช้งานประจำกับภาพลักษณ์โดยรวมของบ้าน มีเทคนิคการถมดินหน้าบ้านดังนี้
- ออกแบบการถมดินให้สอดคล้องกับภูมิทัศน์ที่ต้องการ ทั้งในแง่ของความสวยงามและการใช้งาน | วิธีจัดสวนหน้าบ้าน ด้วยตัวเอง
- สำหรับพื้นที่ที่ต้องการปลูกต้นไม้ ควรใช้ดินหน้าดินหรือดินดำที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ถ้ามีงบที่จำกัด อาจเลือกถมดินทั่วไปก่อน แล้วค่อยนำหน้าดินมาถมเฉพาะบริเวณที่ต้องการปลูกต้นไม้
- ออกแบบระบบระบายน้ำรอบบ้านให้มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังและความชื้นที่จะกระทบต่อโครงสร้างบ้าน
-
ในพื้นที่ลาดเอียงหรือมีความเสี่ยงต่อการกัดเซาะ ควรปลูกหญ้าหรือพืชคลุมดินเพื่อยึดเกาะดิน หรืออาจใช้วัสดุปูพื้นที่ช่วยป้องกันการกัดเซาะ เช่น หินกรวด หรือแผ่นปูพื้น
การพิจารณาลักษณะพิเศษของพื้นที่และการใช้เทคนิคที่เหมาะสมในการถมดิน ช่วยให้การก่อสร้างบ้านที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และแข็งแรงในระยะยาวค่ะ
สรุป
ถมดินสร้างบ้าน คือขั้นตอนพื้นฐานที่ส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างและช่วยป้องกันปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว การเลือกใช้ดินแต่ละประเภท เช่น ดินถม ดินเหนียว หรือดินลูกรัง ควรเลือกให้เข้ากับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์การใช้งาน
การเตรียมการก่อนถมดิน ควรเริ่มจากการสำรวจพื้นที่และวางแผนระดับความสูงให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม การถมให้สูงกว่าระดับถนนประมาณ 50-80 เซนติเมตรจะช่วยป้องกันน้ำขังได้ และควรทิ้งช่วงเวลาให้ดินอัดตัวแน่นก่อนเริ่มก่อสร้าง เพื่อลดความเสี่ยงที่โครงสร้างจะทรุดตัวภายหลัง
การถมดินยังต้องอ้างอิงข้อบังคับในพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ. 2543 สำหรับพื้นที่ถมดินเกิน 2,000 ตารางเมตร เจ้าของพื้นที่มีหน้าที่แจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นและต้องจัดเตรียมระบบระบายน้ำ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อบริเวณรอบข้างค่ะ
อ่านเพิ่มเติม: สร้างบ้าน เลือกแบบไหนดี ? ระหว่าง บริษัทรับก่อสร้าง กับ ผู้รับเหมาอิสระ